‘คลินิกการแพทย์แผนไทย’ นับเป็น 1 ใน 8 บริการสาธารณสุขวิถีใหม่ จากหน่วยบริการภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมรองรับในโครงการ 'ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว' ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเข้ารับบริการของคนไทยสิทธิบัตรทอง 30 บาท ที่ต้องการรับบริการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย รวมไปถึงการดูแลสร้างเสริมสุขภาพจากแพทย์แผนไทย ที่มีคลินิกเปิดให้บริการในแต่ละพื้นที่
ภายหลังจากการดำเนินเฟสแรกของโครงการ ที่รัฐบาลคิกออฟในพื้นที่ 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ ร้อยเอ็ด แพร่ เพชรบุรี และนราธิวาส ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้มีคลินิกการแพทย์แผนไทย เข้าร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นหน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่เพื่อรองรับในโครงการนี้ รวมมากเกินกว่า 50% ไปแล้ว
ภาพความสำเร็จส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้น จากคลินิกการแพทย์แผนไทยที่เข้าร่วมโครงการในเฟสแรก ที่มีประชาชนสิทธิบัตรทอง 30 บาท เลือกไปรับบริการบำบัดฟื้นฟูสุขภาพร่างกายมากขึ้น ได้ส่งผลมาถึงพื้นที่อีก 8 จังหวัดในโครงการเฟสถัดมา ที่มีคลินิกการแพทย์แผนไทยเข้ามาสมัครเป็นหน่วยบริการเพิ่มขึ้นอย่างคึกคักตามมา
อย่างเช่นใน จ.พังงา ได้มีคลินิกการแพทย์แผนไทยที่เข้าร่วมแล้ว โดยหนึ่งในนั้นคือ 'หมอไหมคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์' ของ พท.ป.ภัทรภรณ์ พรหมแก้ว แพทย์แผนไทยประยุกต์ ที่มองเห็นโอกาสของโครงการนี้ว่าจะเป็นช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงบริการแพทย์แผนไทยได้มากขึ้น และยังจะเป็นโอกาสของวิชาชีพนี้ในการดูแลสุขภาพของประชาชน รวมไปถึงการมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการให้บริการตามมา
พท.ป.ภัทรภรณ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า 'หมอไหม' ซึ่งเป็นที่มาของชื่อคลินิกแห่งนี้ ที่หมอไหมเพิ่งเปิดให้บริการในพื้นที่บ้านเกิดของตนเองมาได้เพียงปีเศษ แต่กลับมีผลตอบรับในการใช้บริการของประชาชนเป็นอย่างดี จากทั้งจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ หรือแม้แต่นครศรีธรรมราช ที่ยังมีผู้เดินทางมาขอรับบริการ
ในแต่ละวันทางหมอไหม และแพทย์แผนไทยประยุกต์ประจำคลินิกอีก 1 คน จะให้บริการกับประชาชนโดยเฉลี่ยวันละ 5-6 คน แต่อาจเพิ่มขึ้นได้เป็นถึงวันละ 20 คนในวันเสาร์-อาทิตย์ จึงทำให้ในแต่ละเดือนคลินิกการแพทย์แผนไทยแห่งนี้ดูแลคนไข้ไม่ต่ำกว่า 100 คน
สำหรับคนไข้เกือบทั้งหมดหรือส่วนใหญ่ มักจะมาด้วยอาการ ‘ออฟฟิศซินโดรม’ และบางส่วนก็อาจจะมา นวดประคบ นวดบำบัดฟื้นฟู รวมถึงอบสมุนไพร บ่งต้อด้วยหนามหวาย ตลอดจนเลือกใช้ยาจากตำรับแพทย์แผนไทย เป็นต้น
ในส่วนของค่าบริการ ก็จะเริ่มจากการนวดรักษา 350 บาท นวดรักษาและประคบสมุนไพร 450 บาท ประคบสมุนไพรอย่างเดียว 200 บาท เผายาสมุนไพร 300 บาท อบยาสมุนไพร 200 บาท และฟื้นฟูมารดาหลังคลอด 990 บาท เป็นต้น
“เราได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้น ซึ่งในระยะหลังความนิยมมาใช้บริการที่คลินิกการแพทย์แผนไทยก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน อาจเพราะด้วยราคาค่าบริการที่เราเรียกเก็บถือว่าไม่แพง และเป็นราคาตามความสามารถวิชาชีพ” เธอ ระบุ
พท.ป.ภัทรภรณ์ ระบุว่า แม้ค่าบริการจะมีราคาไม่แพง แต่ก็อาจมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่เข้าไม่ถึงบริการอยู่ดี ดังนั้นเมื่อมีโครงการที่ให้คลินิกเป็นหน่วยบริการเพื่อรองรับ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งเธอเองก็อยากใช้วิชาชีพเพื่อดูแลประชาชน หรือคนไข้ที่มีความต้องการแต่เข้าไม่ถึง เธอจึงไม่รอช้าและสมัครเข้าร่วมโครงการทันที แม้จะรับทราบมาก่อนว่าเงินชดเชยที่ได้รับ ไม่ได้เท่ากับค่าบริการที่เรียกเก็บ แต่อย่างน้อยคนไข้ที่ต้องการรักษาด้วยแพทย์แผนไทย ก็ได้เข้าถึงบริการโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ขณะเดียวกัน ด้วยสถานที่ตั้งของคลินิแห่งนี้ที่ตั้งอยู่กลางอำเภอเมืองพังงา มีความโอ่โถ่ง สะอาดสอ้าน รวมไปถึงมีการจัดเรียงอุปกรณ์การทำงาน ตัวยาสมุนไพร ห้องอบสมุนไพร ที่แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ก็ยิ่งทำให้คลินิกแห่งนี้ดูน่าใช้บริการ จนทำให้ตัวแทนจากสภาการแพทย์แผนไทย ที่ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมคลินิกในครั้งนี้เอ่ยปากชม พร้อมระบุถึงการเป็นตัวอย่างให้กับคลินิกอื่นๆ ได้จัดระบบเพื่อรองรับบริการนี้ได้
ประเสริฐ สังขกุล ผู้แทนจากสภาการแพทย์แผนไทย ให้ภาพว่า การแพทย์แผนไทยเป็นอีกหนึ่งวิชาชีพที่มีโอกาสได้เข้ามาร่วมกับโครงการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว และเป็นการยืนยันว่า แพทย์แผนไทยเองมีศักยภาพในการดูแลสุขภาพประชาชน ร่วมกับวิชาชีพอื่นๆ ได้อย่างสอดคล้องและหนุนเสริมกันเป็นอย่างดี
- 86 views